ขนมถ้วย ขนมไทยสูตรทำง่าย ถ้วยเดียวไม่เคยพอ


วิธีทำขนมถ้วย สูตรขนมไทยในดวงใจที่ได้ตักขึ้นมากินทีไรถ้วยเดียวไม่เคยพอ แคะ ๆ กิน ๆ เผลอแป๊บเดียวกินจนหมดจาน แต่ถ้าใครอยากจะลองทำกินเองก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดถ้ามีอุปกรณ์ครบ
สังเกตุไหมในสมัยนี้ขนมถ้วยกลายเป็นกิมมิกที่อยู่คู่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือไปซะแล้ว ก็เล่นใส่พริกในก๋วยเตี๋ยวมาให้เผ็ด ๆ แบบนี้ก็ต้องจัดขนมถ้วยแกล้มไปสักหน่อย แต่เอาเป็นว่า ใครอยากกินขนมถ้วยโดยที่ไม่ต้องไปร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ หรือรอรถคุณป้าคุณลุงเข็นมาขาย วันนี้เราก็ไม่ลืมที่จะนำวิธีการทำขนมถ้วยมาฝากจาก คุณ  RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูปดอทคอม ลองทำกันดูนะ
 ส่วนผสม (หน้าขนม)                        แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย            น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย            เกลือป่น 1 ช้อนชา            หัวกะทิ 2 ถ้วย
 ส่วนผสม (ตัวขนม)                        แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย            น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม            แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย            แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ            น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/4  ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)            หางกะทิ 1/2 ถ้วย
 อุปกรณ์เพิ่มเติม                        ถ้วยขนมถ้วย (หรือถ้วยทนความร้อนสำหรับนึ่ง)            ชุดนึ่ง
 วิธีทำ                       1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้                        2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้                        3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย)                        4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที                       5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที                       6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย จักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
รู้อย่างนี้แล้วสาวกขนมถ้วยอย่างเราต้องขอตัวไปตลาดซื้อของมาทำแป๊บ !! จะกินให้พุงกางไม่แคร์ความอ้วนเลยสักนิด !


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากคุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Rin Silpachai