งานปกปิดผิวต้องมา คอนซีลเลอร์ จ๋าช่วยฉันด่วน!

หลายคนเข้าใจว่างานผิว คือการแต่งหน้าเบาๆ เผยสภาพผิว แต่จริงๆ แล้ว

งานผิว คือการเมกอัพให้ผิวดูสวยฉ่ำเป็นธรรมชาติ ซึ่งหนึ่งในวิธีเริ่ดๆ

ก็คือการใช้คอนซีลเลอร์และคอร์เร็กเตอร์ ตัวช่วยที่ปกปิดได้ดี

วิธีเลือกใช้สีของคอนซีลเลอร์และคอร์เร็กเตอร์

สีของคอนซีลเลอร์ที่เราจะใช้ โดยทั่วไป ก็คือสีพื้นอย่างสีเนื้อ

แต่เราก็ต้องเลือกซื้อสีที่เหมาะสมและตรงกับสภาพผิวของเราด้วย

เพราะโทนสีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนขาว บางคนเข้ม

ดังนั้นสีที่เลือกซื้อต้องใกล้เคียงกับสีผิวของตนเอง ไม่เข้มเกินไป

หรือไม่อ่อนเกินไป ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ไม่เกิน 1

เฉดสีผิวเพื่อช่วยให้หน้าสว่างขึ้นได้

ส่วนคอเร็กเตอร์นั้นจะมีหลายสี ซึ่งเราสามารถดูได้จาก ?วงกลมสี?

ที่สามารถบอกได้เลยว่า สีไหนใช้กลบสีไหน ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ที่ต้องการ

เพื่อผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป

โทนสีเหลือง เป็นโทนสีปกติที่ใช้อยู่แล้ว

เพราะผิวของสาวเอเชีย มีเม็ดสีเหลืองอยู่ในสีผิว

เลยทำให้การใช้คอร์เร็กเตอร์สีนี้ได้ง่าย เหมาะในการใช้บนทุกส่วนของใบหน้า

แต่ถ้าบางเฉดมีสีเหลืองมากเกินไป ก็อาจทำให้หน้าของคุณดูซีดเซียวได้

แนะนำให้ใช้ในบริเวณรอยสิว ริ้วรอยต่างๆ ที่ไม่ค่อยแดงมาก

หรือใช้โทนที่สว่างกว่านิดนึงปกปิดบริเวณใต้ดวงตาได้

โทนสีส้ม (สีพีช) ถ้าหากตาของคุณคล้ำระดับปานกลาง ถึงมาก

แนะนำให้ใช้สีส้มก็พอ

จะเหมาะที่สุดในการปกปิดรอยหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตาเนื่องจากเป็นสีที่เป็น

กลาง และเหมาะกับคนที่มีอันเดอร์โทนสีน้ำเงิน จะปกปิดได้ดีทีเดียว

โทนสีแดง หรือชมพู มีคุณสมบัติช่วยหักล้างสีดำคล้ำ

รอยช้ำต่างๆ อย่างรอยแพนด้าใต้ตา

ใช้ในกรณีที่ต้องการปกปิดอย่างมิดชิดโดยเฉพาะรอยจุดด่างดำทั้งหลายที่ค่อน

ข้างมีความเข้ม

ซึ่งวิธีใช้ให้สีนี้ลงบริเวณจุดที่ต้องการแล้วทารองพื้นทับอีกจะได้ผลลัพธ์

ที่เยี่ยมเลยล่ะ

โทนสีเขียว มีคุณสมบัติหักล้างกับสีแดง เหมาะกับปิดรอยแผล

หรือรอยสิวอักเสบที่เป็นรอยแดงๆ หรือปิดรอยแดงต่างๆ

อีกทั้งยังช่วยให้หน้าดูสว่างขึ้นด้วย

โทนสีม่วง ช่วยทำให้หน้าดูสว่างขึ้น เหมาะกับคนเอเชียที่มีพื้นฐานผิวเป็นสีเหลือง

วิธีใช้ ?คอนซีลเลอร์ และคอร์เร็กเตอร์? ที่สาวๆ ควรรู้!

1. อย่างแรก การเลือกสีคอนซีลเลอร์นั้น

ต้องเลือกที่เหมาะและพอดีกับพื้นสีผิวของเรา

ดังนั้นควรเช็กก่อนว่าเรามีผิวสีไหน ผิวเข้ม ผิวสีน้ำผึ้ง ผิวขาว

จะทำให้ได้การปกปิดที่เนียน

แต่ถ้าใครอยากได้เฉดดิ้งและไฮไลต์ก็ให้เลือกสีที่อ่อนและเข้มกว่าไปประมาณ

1-2 เฉดสีก็พอ

2. วิธีการลงนั้น ให้ลงคอร์เร็กเตอร์ปรับสีก่อนรองพื้น ส่วนคอนซีลเลอร์นั้น

สามารถลงก่อนหรือหลังก็ได้ แล้วแต่วิธีการ และความถนัด ถ้าหากลงก่อนแล้ว

ยังรู้สึกไม่พอใจก็ลงอีกทีทีหลังได้

3. รอยด่างดำ ฝ้า กระ

ให้ใช้พู่กันแต้มคอนซีลเลอร์แล้วระบายลงบนจุดด่างดำก่อน

จากนั้นค่อยตามด้วยรองพื้นที่ใช้ตามปกติ เกลี่ยให้เรียบร้อย

แต่ถ้าหากยังเห็นอยู่ให้ใช้พู่กันปลายแหลมเกลี่ยอีกที

4. สำหรับใครที่มีรอยสิว แนะนำให้ใช้แบบเนื้อครีม

หรือใช้คอร์เร็กเตอร์สีเขียว

โดยใช้ปลายพู่กันหรือนิ้วมือแต้มคอนซีลเลอร์สีเขียวมาแต้มสิว

เกลี่ยให้กลมกลืน หลังจากนั้นใช้รองพื้นทาทับอีกครั้ง

5. สำหรับรอยคล้ำใต้ดวงตา เป็นแพนด้า

ถ้าหากไม่ดำมากนักให้ใช้คอนซีลเลอร์ลงใต้ต้าก็พอ

แต่ถ้าดำเกินจนปกปิดไม่อยู่ก็ให้ใช้คอร์เร็กเตอร์เข้าช่วย

หรือเราสามารถใช้ลิปสติกสีแดงและสีส้มแทนคอร์เร็กเตอร์ได้

6. วิธีลงคอนซีลเลอร์ใต้ตา ให้ลงเป็นแนวสามเหลี่ยม เพื่อให้คอนซีลเลอร์ปกปิด และกระจายแสงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดูเนียนไม่หลอกตา

7.

สามารถใช้คอนซีลเลอร์ช่วยให้เมกอัพดูสวยขึ้นด้วยการลงตรงปีกจมูกและมุมปาก

ขอบปาก ในการปกปิดและสร้างมิติ

และสามารถลงคอร์เร็กเตอร์เพื่อปรับสีผิวได้ตามที่ต้องการ

8. คอนซีลเลอร์สีอ่อน สามารถใช้แทนไฮไลต์เตอร์ได้ เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้า

โดยลงบนจุดที่กระทบแสง ตรงบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม ใต้ท้องคิ้ว สันจมูก

และสีที่เข้มกว่านำมาใช้คอนทัวร์ให้ใบหน้าดูเรียวเล็กได้

9. สำหรับใครที่ต้องการเติมหน้าในระหว่างวัน

แนะนำว่าให้ฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ชุ่ม ใช้ทิชชูซับออก

แล้วทัชอัพด้วยคอนซีลเลอร์ โดยการใช้นิ้วมือเบลนด์ สามารถตบทับด้วยแป้งได้

แปรงขนาดเล็ก ? สำหรับลงในจุดเล็กๆ อย่างสิว

แปรงขนาดกลาง ? สำหรับแต้มในบริเวณมุมเล็กๆ อย่าง ซอกจมูก มุมปาก หรือจุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้า

แปรงขนาดกลางปลายแบน ? ใช้สำหรับลงใต้ตา เพราะสามารถเกลี่ยได้อย่างละเอียด