ดร.วิคตอเรีย ซีดร็อก บอกไว้ว่า “ผู้ชายตกหลุมรักด้วยสองตา ทว่าผู้หญิงตกหลุมรักด้วยสองหู” ซึ่ง
ดูเหมือนว่าจะเป็นจริง เพราะสิ่งแรกที่ทำให้ผู้ชายเกิดอาการปิ๊ง ๆ
ผู้หญิงคือภาพลักษณ์ เช่น ความน่ารัก สวย สดใส แลดูมีเสน่ห์
ในขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักประทับใจหนุ่ม ๆ
ด้วยคำหวานที่พวกเขาชอบพูดกรอกหูให้ฟังเสมอ
แต่ถึงแม้ว่าพระเจ้าสร้าง “อดัม” และ “อีฟ” ให้เกิดมาคู่กัน
ก็มีผู้ชายจำนวนมากยอมรับว่าผู้หญิงดูน่าเบื่อและไร้เหตุผล
ในขณะที่ผู้หญิงกลับว่าผู้ชายก็งี่เง่าที่สุด ซึ่งจริง ๆ
แล้วปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าใครดีที่สุด หรือใครเลวที่สุด แต่อยู่ที่ “ความแตกต่าง” ของผู้ชายและผู้หญิงเป็นสาเหตุของ “ความไม่เข้าใจ” เช่น…
ผู้หญิงชอบเปลี่ยนแปลงผู้ชาย ในขณะที่ผู้ชายไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ผู้หญิงชอบหึงหวงในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ในขณะที่ผู้ชายห่วงตามสถานการณ์
ผู้หญิงชอบทำตัวติดแฟนตลอดเวลา ในขณะที่ผู้ชายชอบออกไปลั้ลลากับเพื่อน ๆ
ผู้หญิงชอบเอาใจใส่ในทุก ๆ เรื่อง ในขณะที่ผู้ชายหวงแหนความเป็นส่วนตัว
ผู้หญิงชอบให้ผู้ชายพูดคำหวาน ในขณะที่ผู้ชายเป็นพวกปากหนัก ทำตัวโรแมนติกไม่เป็น
ผู้หญิงชอบงอนแบบไม่มีเหตุผล ในขณะที่ผู้ชายมักมีเหตุผลมารองรับในการกระทำ
ผู้หญิงชอบจู้จี้ขี้บ่นและสามารถพูดได้ตลอดเวลา ในขณะที่ผู้ชายเป็นพวกไม่ค่อยพูดและขี้รำคาญสุด ๆ
ผู้หญิงชอบขี้เหงา ต้องโทรหาบ่อย ๆ ในขณะที่ผู้ชายไม่รู้จักเหงา เพราะ 365 วัน ออกไปสังสรรค์ตลอด
ผู้หญิงชอบคาดหวังว่ารักจะจบลงที่การแต่งงาน ในขณะที่ผู้ชายก็แค่ทำความรักครั้งนี้ให้ดีที่สุด
นี่เป็นเพียงข้อเปรียบเทียบเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่สามารถมองเห็นภาพความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชายได้อย่างชัดเจน
เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกหากผู้หญิงและผู้ชายจะมอง “ความรัก”
ในมุมที่แตกต่างออกไป จนบางครั้งอาจเกิดอาการทะเลาะเบาะแว้ง
ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ดัง
นั้นในเมื่อทั้งผู้ชายและผู้หญิงไม่มีวันที่จะเหมือนกันได้
ทางออกที่ดีที่สุดในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขคือ
“การทำความเข้าใจ”….”ยอมรับในกันและกัน”
ถนนแห่ง “ความรัก” จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ หากทั้งคู่เว้นช่องว่างระหว่างกัน
ประมาณว่าไม่มาก ไม่บ่อย แต่ไม่หาย
เลือกอยู่ในตำแหน่งที่เราและเขาจะมีความสุข เพราะชีวิตรักถ้ามี “ตรงกลาง” และ “ความเข้าใจ” ไม่ว่าจะคิดต่างหรือมองมุมไหน ก็สวยงามเสมอ ^____^