ทำงานหนักใช่ว่าสมองจะไวตาม เพราะยิ่งใช้สมองมากเท่าไร
ก็เหมือนว่าเราขโมยศักยภาพของสมองในอนาคตมาใช้ ฉะนั้นควรใช้สมองแต่พอดี
ไม่หักโหมจนเกินไป สมองจะล้าเปล่าๆ แต่ก็ใช่ว่าสมองจะพัฒนาไม่ได้
เพราะในทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์มาแล้วว่า 4 กิจกรรมต่อไปนี้
สามารถพัฒนาสมองให้แล่นไวและเฟรชขึ้นได้ แม้อายุจะมากขึ้น
ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1. เรียนรู้ภาษาใหม่
จากการศึกษาพบว่า คนที่มีความรู้มากกว่า 1
ภาษานั้นมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมช้ากว่าคนที่พูดแค่ภาษาเดียวถึง 4
ปีครึ่งด้วยกัน สาวลิซ่าลองโหลดแอพไม่ก็ดูทีวีหรือซีรีส์แบบ Soundtrack
ดูสักเดือน แล้วจะรู้ว่าสมองนั้นแล่นไวขึ้นจริง
2. ลองเปลี่ยนฟอนต์เวลาอ่าน/พิมพ์งาน
การทำให้สมองต้องเรียนรู้หรือทำงานในทางที่ต่างไปจากเดิมแม้แต่การเปลี่ยนฟอนต์ใหม่ก็เป็นการทำให้สมองทำงานไวขึ้นเช่นกัน
โดยแทนที่จะใช้ฟอนต์ปกติเช่น Angsana New หรือ Times New Roman
ก็ลองใช้ฟอนต์ Callibri หรือ Helvatica
เพื่อลับสมองและฝึกสมองให้สามารถเรียกข้อมูลที่มีอยู่ได้เร็วยิ่งขึ้น
3. อย่าทำหลายอย่างในเวลาเดียว
คนที่สามารถทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้นั้นถือว่าเก่งใช้ได้
แต่มีการศึกษาออกมาแล้วว่า มันไม่ได้ช่วยทำให้สมองดีขึ้นอย่างที่คิด
ตรงกันข้าม
การทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันนั้นเป็นการใช้สมองส่วนหน้าเกินหน้าที่
ซึ่งสมองส่วนนี้รับผิดชอบในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา และสุขภาพสมอง
ฉะนั้นเหล่าคุณหมอจึงแนะนำให้ทำทีละอย่างมากกว่า
เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพของสมองในการช่วยเรียนรู้ ทำความเข้าใจ
และการประยุกต์ใช้ข้อมูลใหม่ๆ
4. หาจุดหมายในการใช้ชีวิต
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
คนที่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนนั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์น้อยกกว่าคนที่ไม่มีถึง
2 เท่า โดยเค้าอธิบายไว้ว่า
ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะเมื่อไรก็ตามที่เรามีจุดมุ่งหมาย
เราก็จะบิ้วตัวเองให้ทำตามสิ่งที่ต้องการ
ซึ่งการกระทำเหล่านั้นเป็นการช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองในระยะยาว
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ใหม่ๆ การประยุกต์ใช้ข้อมูลและสิ่งที่เรียนรู้ต่างๆ
การเข้าสังคม ไปจนถึงความชอบส่วนตัว