วันนี้เรามีเรื่องที่หลายคนคงเคยพบเจอ
มาในชีวิต โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้รถไปไหนมาไหนเป็นประจำ
มันเป็นผลสำรวจที่มีการค้นพบว่ามักจะเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ
เหล่านี้ขึ้นบนรถระหว่างที่คุณอยู่กับแฟนแบบ 2 ต่อ 2 ถึง 70% อย่างเช่น
จูบกับแฟนครั้งแรก การบอกรักครั้งแรก
หรือในบางรายอาจมีการแสดงความรักกันแบบหนักหน่วงกันในรถเลยก็มี
และเรื่องที่สุดแสนจะเจ็บปวดอย่างการโดนบอกเลิกก็มีอยู่บ่อยไป ก็เช่นกัน
แต่มีการค้นพบที่น่าสนใจสำหรับการที่
คุณพาสาวขึ้นรถ และนั่งไปด้วยกันนั้น
มีโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ได้มากกว่าวิธีอื่นๆ อีกด้วย
เพราะเมื่อการที่เรานั่งอยู่ในรถเป็นเวลานาน
มันก็คงจะมีกิจกรรมอยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น(ไม่รวมถึงการปรับเบาะเอน
ทันทีที่ขึ้นรถ) ที่สามารถทำได้ในขณะอยู่ในรถ
ซึ่งถ้าการเดินทางนั้นเกิดเงียบจนได้ยินแต่เสียงแอร์ การมองออกไปนอกหน้า
มองเส้นทางของถนนหนทางที่อยู่ตรงหน้า
และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงจุดหมายนั้น
มีผลกระทบต่อจิตใจให้ผู้ที่นั่งโดยสารไปด้วยเกิดอาการเหงาขึ้นมา
มันจึงเป็นโอกาสที่คน 2 คนจะได้พูดคุยกันมากขึ้น
ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีความสนิทสนม และกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ
อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย
จาก ชาย-หญิง จำนวนทั้งหมด 5 คู่ 4-5
เลือกที่จะพูดคุยอย่างจริงจังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ขณะที่กำลังอยู่ในรถ
โดยคิดเป็น 34% ของคนที่ถูกทดสอบทั้งหมดต่างให้เหตุผลว่า
การอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ในขณะที่รถกำลังแล่นไปด้วย
ทำให้การพูดคุยนั่นลื่นไหลตาม แถมยังไม่ต้องกังวลหรืออายใครทั้งนั้น
เพราะมันเหมือนกับเป็นที่ๆ มีเพียงเรา 2 คน และต่อจากนี้จะเป็น 5
ข้อที่เป็นส่วนหนึ่งจากการวิจัยของ บริษัท รถยนต์ยักษ์ใหญ่ในอเมริกาอย่าง
Ford ที่ได้ร่วมมือกับเว็บไซด์ Yourtango ในหัวข้อ ?Love on the Road
Survey? เพื่อดูว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้างที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ
และสิ่งใดที่คุณควรหรือไม่ควรทำ ที่จะทำให้คุณพลาดช่วงเวลา
ที่อาจจะเป็นความทรงจำดีๆ ที่เกิดขึ้นบนรถของคุณ
1. ถูกตำรวจ หรือ คน จับได้ขณะทำภาระกิจ
หลายๆ
คนอาจจะถึงขึ้นโรงพักข้อหาอนาจารกันถึง 30% เลยทีเดียว
ถ้าหากคุณจะหาที่จอดได้มิดชิด ติดฟิลม์ดำปี๋ ได้แล้ว อย่าเพิ่งชะล่าใจ
เพราะอาการ สั่น เขย่า
ของรถนั่นแหละที่จะเป็นสิ่งที่เรียกให้คนเข้ามาชมสิ่งที่น่าสนใจจนกลายเป็น
เรื่องได้ เพราะฉะนั้นไปทำภารกิจให้ถูกที่ถูกทางจะดีกว่า
2. ทำไมต้องเบาะหน้า
กว่า 34%
ของคู่รักมันจะอยู่กันอย่างใกล้ชิดที่เบาะหน้ามากกว่า ทั้งๆ
ที่เบาหลังนั้นกว้างสบายเหมาะในการก้าวก่ายพาดพิงมากกว่า แต่ก็อย่างว่า
ถึงเวลาเข้าจริงๆ มันเป็นเรื่องของความไว ตรงไหนก็ได้แล้วล่ะ
แต่คุณก็ต้องระมัดระวัง ดับเครื่องให้เรียบร้อย
แต่มันก็คงจะอึดอัดที่ต้องรู้สึกมีความกดดันจากพวงมาลัยที่ถ้าเผลอโดนแตร
ลั่นเมื่อไหร่ เหมือนเป็นการเรียกแขกเลยทีเดียว
3. ความแตกเพราะความสกปรกของคุณเอง
ควรทำ
ความสะอาดขจัดคราบ การกระทำ ของคุณให้เรียบร้อย!
เพราะใครจะไปรู้ว่าวันรุ่งขึ้นจะเกิดอะไรขึ้น
คุณอาจจะต้องพาพ่อแม่ไปวัดในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น
หรือแฟนคุณอาจจะขึ้นรถมาเจอกับไฮไลท์ที่คุณสร้างเอาไว้เมื่อคืนก่อน โดย 33%
ของผู้ชายนั้นโดนจับได้พร้อมของกลาง ชนิดที่ไม่ต้องแก้ตัวให้เสียเวลา
เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้ล้างรถซะ เพราะนอกจากจะทำให้รถคุณสะอาดเหมือนใหม่
ยังเป็นการกำจัด หลักฐาน มัดตัวในอดีตทิ้งไปด้วย
4. ทะเลาะกันระหว่างการเดินทางจนเกิดอุบัติเหตุ
40%
จากสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการขาดสติ
แต่ในการขาดสติก็มีสาเหตุแยกออกไปอีกมากมาย แต่ถ้าเมื่อคุณอยู่กะแฟนสาว
แล้วทะเลาะกัน
แน่นอนด้วยความหงุดหงิดมันจะส่งผลไปยังเท้าของคุณให้เหยียบคันเร่งแบบบ้า
คลั่ง แถมฝ่ายหญิงก็ไม่รู้เป็นไรทะเลาะทีไรจะลงจากรถทุกที ยื้อไปยื้อมา
อีกคนก็จะเปิดประตู อีกคนก็ขับเร็วผลสุดท้าย วินๆ กลับไปที่ ข้อ.1
5. เปิดเพลงที่ผู้หญิงแทบจะหนีลงจากรถ
ต่อให้คุณขับรถสปอร์ต หรือ
รถหรูขนาดไหน การเปิดเพลงก็ส่งผลถึงอารมณ์คนในรถถึง 91%
ซึ่งมีการสำรวจมาแล้วว่า ถ้าคุณเปิดเพลงชิลๆ ในความดังที่พอดีๆ
จะทำให้ผู้หญิงที่นั่นอยู่ข้างคุณพร้อมที่จะพูดคุยกับคุณตลอดระยะการเดินทาง
แต่ถ้าคุณเปิดเพลงหนักกระโหลก หรือ เพลงจ๊าบๆ ดังสนั่นแถมเปิดกระจกอีก
คงไม่มีผู้หญิงคนไหนมองเห็นความเท่ของคุณอย่างแน่นอน
และนั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้หญิงคนนี้จะนั่งรถคุณ
หนุ่มๆ
ทั้งหลายที่เคยเจอประสบการณ์เหล่านี้ภายในรถ คงจะเข้าใจเป็นอย่างดี
ยิ่งในทางต่างประเทศมีการทำสถิติกันให้ดูอย่างชัดเจนคงยิ่งปฎิเสธยากขึ้นไป
ใหญ่ ซึ่งหนุ่มไทยคนไหนอ่านแล้วก็ควรจะระมัดระวังกันซักนิดนึงนะครับ
ลองเอาบทความข้างต้นนี้มาเป็นแนวทาง ดีก็เอาไปใช้ ไม่ได้ก็ระวังตัวไว้
ก่อนที่อะไรที่ไม่ปรารถนาจะมาเยือนถึงรถของคุณ