Apple โคตรรวย ! แต่ไหงมีหนี้เพิ่มขึ้น ?

ล่าสุดทางบริษัทอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Apple ได้เผยออกมาแล้วว่าตอนนี้ครอบครองเงินสดมูลค่ากว่า202,800 ล้านดอลล่าร์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7 ล้านล้านบาท) ที่มาจากในรูปแบบของเงินเก็บสะสม เงินสำรองในการใช้ลงทุน โครงการในตลาดหลักทรัพย์ทั้งระยะสั้นและยาว รวมถึงรายการเทียบเท่าเงินสดอื่น ๆ เรียกได้ว่าบริษัท Apple มีสินทรัพย์และการเงินที่อยู่ในสภาพคล่องมาก โดยหากรวมทรัพย์สินทั้งหมด (รวมถึงสินค้าคงเหลือคลัง บัญชีลูกหนี้และทรัพย์สินอื่นๆ ) ของบริษัทในตอนนี้จะมีมูลค่ารวมถึง 273,000 ล้านดอลล่าร์ (9.5 ล้านล้านบาท) เลยทีเดียว

แต่กระนั้นก็ยังคงมีหนี้สินระยะยาวของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 40,000 ล้านดอลล่าร์ เพิ่มเป็น 47,400 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งหนี้ใหม่กว่า 8 พันล้านดอลล่าร์ที่เพิ่มขึ้นมานี้มาจากการกู้เงินในช่วงเดือนเมษายนนี้เอง

“หลายคนคงสงสัยว่า ในเมื่อมีเงินเป็นจำนวนมากมายอยู่แล้ว ทำไมบริษัทถึงยังสร้างหนี้เพิ่มขึ้น ?”

เนื่องด้วยเพราะค่าเงินในอเมริกาตอนนี้ค่อนข้างถูกมาก และเงินสะสมของ Apple ส่วนใหญ่จะอยู่ตามนอกเมืองและประเทศต่างๆ บริษัทจึงตัดสินใจกู้เงินแทนที่จะนำเงินเข้าจากเงินสะสมในที่ต่างๆ เพราะค่าภาษีของการนำเงินสดเข้าในอเมริกานั้นแพงกว่ามากนัก
โดยเงินทุนที่กู้ยืมมานั้นถูกนำมาใช้กระตุ้นกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท เช่น หุ้นซื้อคืนและเงินปันผล ที่เริ่มดำเนินการในขั้นต้นในปี 2012 เป็นจำนวน 45,000 ล้านดอลล่าร์ ในรูปแบบของหุ้นซื้อคืน โปรแกรมการคืนทุนเพิ่มขึ้นทบยอดถึงตอนนี้รวมแล้วกว่า 200,000 ล้านดอลล่าร์