อาการปวดแสบปวดร้อนกระเพาะอาหาร กระเพาะเป็นแผล จะหายใน 1 เดือน แค่กินกล้วยน้ำว้าแบบนี้

 

อาการปวดแสบปวดร้อนกระเพาะอาหาร กระเพาะเป็นแผล จะหายใน 1 เดือน แค่กินกล้วยน้ำว้าแบบนี้

 

แผลในกระเพาะอาหาร

 

? เป็นอาการผิดปกติเรื้อรังที่สร้างความทรมานให้คนที่เป็นได้อย่างมาก

 

?ทำให้เกิดความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนกระเพาะอาหารเวลาหิวข้าว แต่พอกินข้าวไปได้ไม่กี่คำ กลับรู้สึกจุกแน่น เสียดท้องขึ้นมาแทน

 

 

บางคนต้องหายาเคลือบกระเพาะ ยาลดกรด มาประจำติดตัวกันไว้เลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่หายขาดเสียที ในวันนี้เราจึงอยากมานำเสนอบทความดีดีกับปวดแสบปวดร้อนกระเพาะอาหารเวลาหิวข้าว กระเพาะเป็นแผล รักษาด้วยกล้วยน้ำว้าดิบ

 

กล้วยดิบ ถูกนำมาใช้รักษาอาการแผลในกระเพาะอาหารมานานแล้วตั้งแต่ในอดีต

 

? ในปัจจุบันยังมีการค้นพบว่า ในกล้วยดิบมีสารสำคัญที่ให้รสฝาดและช่วยสมานแผลชื่อ ?แทนนิน?

 

? แทนนิน มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

 

? ช่วยป้องกันผนังกระเพาะอาหารไม่ให้เชื้อโรคต่างๆ และรสที่เผ็ดร้อนเกินไปทำอันตรายกับผนังกระเพาะอาหารของเราได้

 

? กล้วยทุกชนิดอุดมไปด้วยสาร ?เซโรโทนิน? ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกตามธรรมชาติออกมาเคลือบแผล

 

? แต่สารนี้จะไม่กระทบกับการหลั่งน้ำย่อย มีส่วนช่วยลดการระคายเคืองและอาการแสบร้อนท้องโดยที่ไม่ทำให้การย่อยลดประสิทธิภาพลง

 

? ในขณะที่ยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร ออกฤทธิ์เพียงเคลือบป้องกันแผล แต่กล้วยมีฤทธิ์ทั้งป้องกันและสมานแผลในกระเพาะอาหารควบคู่ไปด้วย

 

วิธีแรกทานแบบสด

 

1. นำกล้วยน้ำว้าดิบมาทำการปอกเปลือกออก

 

2. ทำการหั่นเป็นแว่นบางๆ 2-3 แว่น

 

3. จากนั้นจุ่มน้ำผึ้ง แล้วเคี้ยวทานก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ ประมาณ 30 นาที

 

4. การเคี้ยวก่อนกลืนจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น

 

5. ถ้าหากไม่ได้จุ่มน้ำผึ้งจะทำให้เวลาเคี้ยวติดฟัน

 

ปล : วิธีนี้ค่อนข้างเห็นผลได้เร็วไม่เกิน 1 เดือนแผลในกระเพาะอาหารของคุณก็จะหาย

 

วิธีที่สองแบบแปรรูป

 

1. นำกล้วยน้ำว้าดิบมาล้างให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก)

 

2. ทำการหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วแผ่ในถาด เพื่อไม่ให้ชิ้นกล้วยซ้อนกัน

 

3. นำไปตากลมหรือแดดสัก 3 แดด ข้อควรระวังคือ ต้องไม่ให้อุณหภูมิสูงเกินไป ตากจนกล้วยกรอบและแห้งสนิท

 

4.เมื่อตากเสร็จแล้วให้นำมาตำจนละเอียดเป็นผงแล้วเก็บใส่โหล

 

5. เมื่อจะนำมาทานก็ใช้ผสมกับน้ำอุ่นๆ หรือน้ำผึ้งทานก็ยิ่งดี

 

6. ควนทานก่อนอาหารทุกมื้อ 30 นาที ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีที่สาม แบบยาลูกกลอน

 

1.คุณสามารถหาซื้อกล้วยดิบผงหรือแบบที่ปั้นเป็นลูกกลอนแล้วก็ได้

 

2. แนะนำให้ทานแบบลูกกลอนเพราะ จะออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารได้ง่าย

 

3. สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาอ

4. ยาสมุนไพรมาทานได้เช่นกัน ทานตามที่ฉลากยาแนะนำ ให้ได้ต่อเนื่อง 1-2 เดือน อาการแผลในกระเพาะก็จะหายไป

 

5. อีกทั้งยังทำให้ระบบย่อยจะกลับมาทำงานได้ดีอีกด้วย

 

การรักษาโรคที่ถูกต้องที่สุดคือ การที่คุณปรับพฤติกรรมการกินอยู่ให้เหมาะสมกับธรรมชาติของร่างกายนั่นเอง ถ้าใครอยากห่างไกลจากโรคกระเพาะอาหารก็ให้ทำตามดังต่อไปนี้

 

1. ทานอาหารให้ตรงเวลา

 

? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเช้า ควรทานไม่เกิน 9:00 น.

 

?เนื่องจากเป็นเวลาการทำงานของลมปราณกระเพาะอาหารตามนาฬิกาชีวิต น้ำย่อยจะหลั่งออกมาเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

 

? คุณควรทานอาหารที่มีคุณภาพ อาทิเช่น ข้าวกล้อง ข้าวแกง กับข้าวสดใหม่ ก๋วยเตี๋ยว

 

? อาหารเช้าคือ ขุมพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน

 

2. ควรงดการทานอาหารมื้อดึกเกิน 3 ทุ่ม

 

? เนื่องมาจากเป็นเวลาที่ระบบต่างๆ ในร่างกายต้องการพักผ่อน

 

3.ไม่รังแกระบบย่อยอาหารด้วยการดื่มน้ำในเวลาทานอาหารมากเกินไป

 

? การดื่มน้ำมากในมื้ออาหารจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง

 

? การย่อยจะไม่มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดขยะตกค้างในลำไส้ได้มาก

 

4. ลดการทานอาหารที่ย่อยยาก

 

? อาทิเช่น เนื้อสัตว์เหนียวๆ ของทอด ของมัน เครื่องดื่มเย็นจัด หวานจัด

 

? เพื่อช่วยลดภาระของระบบย่อยอาหาร

 

หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ใครที่กำลังประสบกับปัญหาปวดแสบปวดร้อนกระเพาะอาหารเวลาหิวข้าว กระเพาะเป็นแผล เราก็ขอแนะนำให้คุณทำตามวิธีการต่างๆตามด้านบนได้เลย

 

 

ที่มา...http://www.naarn.com/10362/