ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ถนอมผิว บำรุงผิวพรรณให้สวยกระจ่างใสมากมาย
เพื่อตอบรับกับความต้องการด้านความสวยความงามที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เดี๋ยวนี้เราทุกคนไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย
หันมาให้ความสนใจกับรูปร่างหน้าตาและลักษณะภายนอกกันมากขึ้น
โดยเฉพาะใบหน้าที่เป็นเหมือนประตูด่านแรกในการสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น
การมีหน้าตาสดใส เป็นที่สะดุดตา
ก็เป็นเหมือนตัวช่วยที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
หรืออย่างน้อยที่สุดก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้เรามีพลังในการทำสิ่งต่างๆ
ในทางตรงกันข้ามถ้ารู้สึกว่าหน้าโทรม อ่อนเพลีย ใบหน้าหมองคล้ำ
มีสิวและริ้วรอย ก็จะรู้สึกไม่มั่นใจ
ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่คนส่วนใหญ่จะต้องหาทางฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวยใสดังเดิม
เมื่อรู้สึกว่าผิวของตัวเองถูกทำร้ายจนดูทรุดโทรม
ที่สำคัญคนส่วนใหญ่ก็ชอบหาอะไรที่ทำแล้วได้ผลแบบรวดเร็ว และปลอดภัย
ที่สำคัญยังสามารถทำได้ง่าย ทำได้เองที่บ้าน สิ่งที่ว่านี้ก็คือ ?การมาร์คหน้า? นี่ล่ะ
ก่อนที่จะไปเรียนรู้วิธีการมาร์คหน้า เราต้องรู้ก่อนว่า มาร์คหน้ามีทั้งหมดกี่แบบ วิธีเลือกมาร์คแบบใดในการบำรุงผิวหน้า มาร์คแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร
ใครจะไปรู้ว่า วิธีมาร์คสำหรับหน้านั้น มีอยู่ด้วยกันมากกว่า 13 ชนิด
-
Bio Cellulose Mark sheet มาร์คไบโอเซลลูโลส
ทำมาจากแผ่นใหญ่ชีวภาพซึ่งมีสารประกอบหลักคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง
ที่นำไปหมักด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติ บางครั้งก็ผลิตมาจากไฟเบอร์มะพร้าว
มาร์คแบบนี้สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้มากกว่ามาร์คทั่วไปที่ขายอยู่ตามท้องตลาดถึง
10 เท่า อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่น เกาะติดกับผิวหน้าไม่หลุดร่วง
เมื่อเราทำการมาร์คหน้าจะไม่รู้สึกว่าแห้งตึงผิว รู้สึกสบายและสดชื่น
แถมแผ่นมาร์คแบบนี้ยังไม่มีสารสังเคราะห์ของกาว
มีคุณสมบัติในการซึมซับถึงรูขุมขน เหมาะกับคนที่เพิ่งไปทำ IPL ยิงเลเซอร์
และผ่านกระบวนการทางความงาม คนที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
ดีขนาดนี้แน่นอนว่าราคาของมันก็ต้องสูงตามไปด้วย
วิธีใช้มาร์คไบโอเซลลูโลส
ขั้นตอนที่ 1 : หลังล้างหน้าให้แกะกระดาษที่ประกบหน้าหลังของแผ่นมาร์คออก
ขั้นตอนที่ 2 : ตามด้วยการถ้าแผ่นมาร์คลงบนใบหน้าโดยเริ่มจากบริเวณดวงตาจมูกและปาก ใช้นิ้วไล่แผ่นมาร์คให้แนบสนิททั่วทั้งใบหน้า
ขั้นตอนที่ 3 : หลังจากนั้นให้ทิ้งไว้ 10 ? 15
นาทีแล้วเราก็ลอกออก ตามด้วยการใช้ปลายนิ้วมือตบเบาๆ
เพื่อกระตุ้นสารบำรุงให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
จากนั้นก็สู่ขั้นตอนการบำรุงตามปกติต่อไป
-
แผ่นมาร์คหน้าแบบกระดาษ
จะผลิตมาจากกระดาษสังเคราะห์
ซึ่งตัวกระดาษนี้จะซึมซับเนื้อเซรั่มเอาไว้และเมื่อเรานำมาวางบนใบหน้าเซรั่มนั้นก็จะซึมซาบลงสู่ผิว
ข้อดีของมาร์คแบบนี้คือ สามารถหาได้ง่ายและราคาไม่แพง
แต่สิ่งที่น่ารำคาญใจก็คือ เวลาที่เรามาร์คหน้า
เนื้อครีมหรือว่าเซรั่มจะเปียกและเลอะเทอะได้ง่าย
อีกทั้งตัวกระดาษก็เลื่อนหลุดได้ง่ายเช่นกัน
วิธีใช้แผ่นมาร์คหน้ากระดาษ
ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดก่อน
โดยล้างและเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าออกให้หมด
ถ้าแต่งหน้าค่อนข้างเยอะควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่เหมาะสมกับสภาพผิว
และครีมล้างหน้าร่วมด้วย เพื่อทำให้ใบหน้าสะอาดหมดจดจริงๆ
ขั้นตอนที่ 2 : ทำการนวดหน้าเบาๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นผิว เพื่อให้ครีมสามารซึมซับเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 : แกะแผ่นมาร์คออกจากซอง
หรือภาชนะที่บรรจุ แล้วนำมาร์สหน้ามาคลี่ออก แล้ววางบนใบหน้า
หลังจากนั้นให้นอนนิ่งๆ ไม่ให้แผ่นมาร์คเลื่อนออก
และยังเป็นการให้สารบำรุงผิวต่างๆที่มีอยู่ในแผ่นมาร์สหน้า เช่น เซรั่ม
essence ซึมเข้าสู่ผิวโดยตรง ให้ทำการมาร์คหน้าโดยทิ้งเอาไว้แบบนี้ประมาณ
5-10 นาที
ขั้นตอนที่ 4 : แกะแผ่นมาร์สหน้าออก แล้วให้ตบหน้าของตัวเองเบาๆ ทั่วใบหน้า เพื่อให้เนื้อครีมซึมซับลงสู่ผิว
ขั้นตอนที่ 5 : ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด
แล้วจึงล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง เป็นการช่วยกระชับรูขุมขน
จากนั้นซับหน้าด้วยผ้านุ่มๆ เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
แผ่นมาร์คหน้าแบบนี้ คือแบบที่เราเห็นกันบ่อยๆ ตามร้านขายผลืตภัณฑ์ความงาม และห้างสรรพสินค้าทั่วไป โดยที่เราเห็นบ่อยก็จะเป็น แผ่นมาร์คหน้าเกาหลี
ที่มีแพคเกจแตกต่างกันออกไปตามแบรนด์ และส่วนผสมที่มีอยู่ในแต่ละรุ่น
นอกจากแผ่น Mask หน้าเกาหลีแล้ว ยังมีแผ่นมาร์คของญี่ปุ่น
และแบรนด์ไทยอีกมากมายให้เลือกใช้ ทั้งนี้คนที่รู้ตัวว่าผิวแพ้ง่าย
ควรสังเกตผิวหน้าตัวเองทุกครั้งหลังใช้ หรือถ้าระหว่างใช้มีอาการแสบร้อน
หรือคัน ให้หยุดใช้ทันที
-
มาร์คดินเหนียว clay mask
ตามชื่อมาร์คเลย เพราะสิ่งนี้ทำมาจากดินเหนียว Bentonite
มีสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เราเห็นจะมีการเติมสีลงไปเช่นสีเขียว หรือว่าสีฟ้า
คนที่มาร์คหน้าด้วยวัสดุชนิดนี้ควรจะเป็นคนผิวมัน
เพราะสิ่งนี้มันจะไปดูดซับความมันบนใบหน้า
คนผิวแห้งจะรู้สึกว่าตึงหน้าและแห้งเกินไป เมื่อมาร์คแห้งจะร่อนออกเป็นผงๆ
คนที่ทำการมาร์คหน้าอยู่ก็ไม่ควรขยับใบหน้า เพราะมันจะแตกร่อนออกมา
ส่วนวิธีการใช้มาร์คดินเหนียว clay mask สามารถดูได้ตามคลิปวีดีโอข้างล่างเลย
-
มาร์คโคลน Mud Mark
มาร์คหน้าแบบนี้วิธีการง่ายกว่า มาร์คดินเหนียว
ส่วนใหญ่แล้วจะบรรจุอยู่ในหลอดหรือว่ากระปุก สิ่งนี้เหมาะกับคนผิวแห้ง
เมื่อพ่อเอาไว้จะได้กลิ่นโคลน แต่ข้อเสียก็จะคล้ายๆกับมาร์คดินเหนียว
เมื่อแห้งก็จะแตกร่อน เลอะเทอะ
สำหรับวิธีการใช้ก็ไม่ต่างจากมาร์คดินเหนียว ซึ่งคลิปวีดีโอวิธีใช้มาร์คโคลน หรือ Mud Mark ก็ขอเลือกผู้ชายเป็นคนสาธิตดูบ้างแล้วกัน
-
ไฮโดรเจลมาร์ค Hydrogel Mark
แบบนี้มีประสิทธิภาพดีกว่าแบบกระดาษ และดีกว่าแบบไบโอเซลลูโลส
มีลักษณะเป็นแผ่นใสสำหรับวิธีการใช้ก็ไม่ได้แตกต่างจากมาร์คกระดาษ เท่าไหร่
เพียงแค่มาร์คแบบนี้เราต้องทำการลอกแผ่นฟิลม์ใสที่ติดอยู่กับแผ่นไฮโดรเจลออกด้วย
โดยมันจะแยกชิ้นเป็นส่วนบนของใบหน้า คือส่วนตาและจมูก
ตามด้วยส่วนล่างของใบหน้าคือส่วนปากและคาง
หลังวางแผ่นมาร์คลงบนหน้าแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที
พอลอกแผ่นมาร์คออกแล้วก็ให้เอามือนวดเบาๆ ที่ผิวหน้าให้ essence
ซึมเข้าสู่ผิว วิธีการดูได้ตามลิงค์เลย มาร์คตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของเกาหลี
-
Sleeping Mask
มาร์คที่มีลีกษณะเป็นครีม หรือเจล กำลังเป็นที่นิยมเพราะสะดวกสบาย
สามารถทาทิ้งไว้ได้ตลอดคืนไม่ต้องล้างออกเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาจะพบว่าใบหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น
ทั้งนี้เราจะต้องเลือกแบรนด์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และสามารถทาได้ทุกวัน
-
มาร์คที่ต้องลอกออก peeling mask
มาร์คแบบนี้จะบรรจุอยู่ในหลอด
เมื่อบีบออกมาแล้วจะเป็นของเหลวให้เราเอาของเหลวนั้นทาทั่วใบหน้า
หลังจากนั้นก็ให้รอจนแห้งมันจะเกาะตัวกันเป็นแผ่นแล้วเราค่อยลอกออก
ผลิตภัณฑ์มาร์คแบบนี้ไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง และไม่ควรใช้ทุกวัน
คนหน้ามันหรือว่าผิวมัน อาจชื่นชอบมาร์คสไตล์นี้
ถ้ามันสามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี ใครที่มีปัญหาเรื่องสิวหัวดำ
มาร์คแบบนี้ค่อนข้างเวิร์คเลยล่ะ หลังจากทามาร์คที่เป็นรูปแบบของเจลใสแล้ว
ให้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วค่อยๆ ลอกแผ่นมาร์คออกจากใบหน้าอย่างช้าๆ
และระมัดระวัง โดยเฉพาะส่วนคิ้ว
เพราะมาร์คแบบนี้จะเหมือนกับการแว๊กซ์หน้าไปในตัว พวกขนอ่อนบนหน้า
สิวเสี้ยน สิวหัวดำ จะถูกดึงออกมาพร้อมกับแผ่นมาร์คนี้ คนผิวบางให้ระวัง
แต่คนที่มีปัญหาสิวจะชอบมาก
-
คาร์โบเนตมาร์ค Carboneted Mask
มีลักษณะเป็นเหมือนกับฟองอยู่บนผิวหน้า
สามารถช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก
แต่ในขณะเดียวกันก็มีราคาค่อนข้างแพงวิธีใช้คือทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด
ล้างเครื่องสำอางให้หมดแล้วทำการทา Carboneted Mask
ให้ทั่วใบหน้าโดนเว้นส่วนตา จมูก และปากไว้
ส่วนโฟมที่ออกมาระหว่างการทำนั้นจะเป็นอย่างไร
ต้องไปดูภาพจากคลิปสาธิตจริงกัน
-
ครีมมาร์ค หรือ มาร์คชนิดครีม
ครีมมาร์ค หรือมาร์คชนิดครีม มีลักษณะเหมือนครีมค่อนข้างข้นเป็นพิเศษ
คนที่มีผิวค่อนข้างแห้งค่อนข้างเหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบนี้
แต่หลังใช้ต้องล้างหน้าให้สะอาด วธีการใช้ก็เหมือนกับมาร์คทั่วๆ ไป
คือทาบนใบหน้าเว้นส่วนตา จมูก และปากเอาไว้
-
มาร์คเจลลี่
ฟังชื่อก็น่าจะรู้แล้วว่ามีลักษณะนิ่มๆ หยุ่นๆ รู้สึกเย็นสดชื่นขณะใช้
คนผิวมันและผิวแห้งสามารถใช้ได้มักมีลักษณะข้นใส ให้ความชุ่มชื่นกับผิวสูง
-
มาร์คอุ่น
ผลิตภัณฑ์มาร์คหน้าแบบนี้ต้องนำครีมมาอุ่นก่อนใช้ แน่นอนว่าไม่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง
-
มาร์คผง (Powder Mask)
ลักษณะเป็นผงแห้ง บรรจุอยู่ในภาชนะเวลาใช้จะมีครีมมาผสมให้ข้น
หรืออาจผสมน้ำสะอาดมาร์คหน้าได้เลย มาร์คแบบนี้ค่อนข้างเก็บรักษาง่าย
และสามารถนำไปผสมกับโยเกิร์ต น้ำแร่ น้ำผึ้งธรรมชาติ
เพื่อเพิ่มสารบำรุงผิวให้กับใบหน้าตามใจชอบ
-
เม็ดมาร์คอัดเม็ด หรือ compressed mask sheet
เราน่าจะเคยเห็นก้อนกลมๆ แข็งๆ ที่บรรจุอยู่ในซองพลาสติก
พอจะใช้ให้เอาไปแช่น้ำจากนั้นมันก็จะพองตัวขึ้นมาเป็นแผ่นมาร์คหน้า
ซึ่งมีช่องสำหรับตา จมูก และปาก
เหมือนกับแผ่นมาร์คที่ขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป
เคล็ดลับสำหรับคนที่ชอบซื้อมาร์คแผ่นมาใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
ขอแนะนำให้ซื้อตัวเม็ดมาร์คแข็งอัดเม็ดแบบนี้มาติดบ้านไว้
เพราะเราสามารถนำเม็ดมาร์คอัดเม็ดนี้ไปแช่กับน้ำ essence
ที่เหลืออยู่ในซองได้ กลายเป็นว่าเราจะได้มาร์คหน้าเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ครั้ง
เลยทีเดียว ข้อแนะนำในการใช้ก็คือ
ควรเทน้ำมาร์คที่เหลืออยู่ในซองแบ่งออกมาใส่ภาชนะแล้วนำเม็ดมาร์คลงไปแช่
เพื่อให้ดูดซับน้ำเซรั่ม โลชั่น เอสเซ้นส์บำรุงผิวที่เหลืออยู่นั้นขึ้นมา
และควรทำเป็นครั้งๆไป ไม่ควรนำลงไปแช่ในซองเลยเพื่อความสะอาด
ส่วนน้ำที่เหลืออยู่ในซองให้ปิดเอาไว้
และนำไปใส่ในตู้เย็นเอาไว้ใช้ครั้งหน้า
เพียงเท่านี้ก็สามารถประหยัดเงินค่ามาร์คได้อีกหลายบาทเลย
นอกจากนี้คนที่ต้องการทำที่มาร์คหน้าเอง ด้วยส่วนผสมตามธรรมชาติ
ก็ยังสามารถนำเม็ดมาร์คอัดเม็ดนี้มาแช่กับส่วนผสมน้ำมาร์คที่เราทำ
แล้วนำมาวางที่ผิวหน้าก็ได้เช่นเดียวกัน
ประโยชน์ของการมาร์คหน้า
การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันทำให้ผิวพรรณของเราดูหมองคล้ำไม่ผ่องใสโดยไม่รู้ตัว
ทั้งการทำงานจนดึกดื่นไม่มีเวลาพักผ่อน
การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ขาดการออกกำลังกาย
รวมไปถึงสภาวะมลพิษรอบตัว
สิ่งเหล่านี้คุกคามสภาพผิวจนการบำรุงผิวหน้าด้วยการใช้ครีมล้างหน้า
และทาโลชั่นอาจไม่เพียงพอ
การมาร์คหน้าเหมือนเป็นการบำรุงผิวด้วยสารบำรุงแบบเข้มข้น
ทั้งนี้เพื่อช่วยบำรุงผิวให้ดูสะอาดสดใส อีกทั้งยังเป็นการดูดซับสิ่งสกปรก
ขจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า และช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว
เพื่อให้ผิวรู้สึกสดใสไม่อ่อนล้า
อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูผิวหน้าที่ต้องเผชิญกับมลพิษและสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวอีกด้วย
เราควรมาร์คหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ซึ่งถือเป็นความถี่ที่เหมาะสมในการบำรุงผิวหน้าด้วยวิธีนี้
ซึ่งประโยชน์จากการมาร์คหน้ามีดังนี้
-
เป็นการฟื้นฟูบำรุงผิวหน้า
สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูบำรุงผิวหน้าแบบเข้มข้นเป็นพิเศษ
ขอแนะนำให้ใช้การมาร์คหน้า เพราะเนื้อ serum และ essence
ที่มีอยู่ในแผ่นมาร์คหรือเนื้อมาร์ค
มีความเข้มข้นมากกว่าครีมบำรุงปกติที่เราใช้ คนที่ชอบดูแลผิว
ไม่ควรพลาดการบำรุงโดยวิธีนี้
-
ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสิวบนใบหน้า
การมาร์คหน้ามีหลายวิธีด้วยกัน มาร์คบางประเภทมีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน เช่นมาร์คแบบลอกออกได้
-
เป็นการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว
คนที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งหน้าลอก ต้องการการบำรุงผิวแบบลึกล้ำ
ทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล ยืดหยุ่น ไม่แห้งตึงและมีสุขภาพดี
มาจะใช้วิธีการมาร์คหน้าเพื่อเติมน้ำให้กับผิว
ทั้งนี้ต้องเลือกมาร์คสูตรที่เหมาะสมสำหรับสภาพผิวของเราด้วย
-
ทำให้รูขุมขนกระชับ
การมาร์คหน้าเป็นประจำ
อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยให้รูขุมขนบนใบหน้าสะอาดขึ้น
และยังเป็นการช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ทำให้ผิวพรรณบริเวณนั้นดูเปล่งปลั่งสดใส และปัญหาหน้ามัน เป็นสิว
แลดูสุขภาพดี
-
ทำให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน
การมาร์คหน้าถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผิวได้รับออกซิเจนมากขึ้น
เมื่อผิวได้รับออกซิเจนก็จะดูสดใส เล่นเป็นการช่วยลดเม็ดสีผิวส่วนเกิน
รอยจุดด่างดำก็จะจางลง ดูขาวกระจ่างใส