ไม่ว่าคุณจะคบกันมากี่ปี ก็ต้องมีสักเรื่องสองเรื่องที่เขาโกหกคุณ
อาจจะเป็นเรื่องสาว ๆ เรื่องครอบครัว เรื่องการงาน หรือเรื่องอะไรก็ตาม
คุณก็ไม่ควรวางใจเพราะยังไงก็ถือว่าเขาโกหกคุณอยู่ดี
ซึ่งเทคนิคการโกหกของผู้ชายก็ขึ้นอยู่กับความช่ำชองของแต่ละคน
ดังนั้นสาวใสซื่อว่านอนสอนง่ายทั้งหลายควรตามเขาให้ทันบ้างนะคะ
อย่ามัวแต่ปิดหูปิดตาหลอกตัวเองไปวัน ๆ ถ้าคุณไม่อยากโดนหนุ่มข้างกายหลอกไม่รู้ตัวละก็ ลองมาดูกันดีกว่าว่าคนอื่น ๆ เขามีเทคนิคจับโกหกพ่อตัวแสบอย่างไรกันบ้าง
1. มองตาเขา
แค่ดวงตาคู่เล็ก ๆ ของเขานี่แหละที่สามารถบอกคุณได้ทุกสิ่ง
ถึงแม้เขาจะบังคับร่างกายหรือทำตัวไปตามปกติได้
แต่เขาไม่สามารถบังคับสายตาได้หรอก
เพราะดวงตาคือสิ่งที่สื่อความหมายจากใจได้มากที่สุด
ฉะนั้นถ้าเขาพยายามหลบสายตาคุณหรือกลอกตาไปมาผิดจากปกติละก็
มีเรื่องที่เขาปิดบังคุณอยู่แน่ ๆ
2. จ้องตาคุณ
ถ้าไม่ได้อยู่ในห้วงอารมณ์หวานซึ้ง แต่เขากลับมองตาคุณนานผิดปกติ
รู้ไว้เลยว่าเขาไม่อยากจะสบตาคุณเท่าไรหรอก
แต่ที่ทำไปนั้นเกิดจากความจำเป็นล้วน ๆ
เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาพยายามหลบตาคุณเมื่อไหร่
คุณต้องสัมผัสความผิดปกติจากตัวของเขาได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาก็เลยทำตรงกันข้ามหลอกให้คุณตายใจ ว่ายังไง ๆ
เขาก็ซื่อสัตย์กับคุณเสมอ
3. มือซุกในกระเป๋าตลอดเวลา
หากคุณจับสายตาโกหกไม่ได้ และคุณยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่
เปลี่ยนมาจับสังเกตที่มือของเขาได้นะ ซึ่งถ้าหากเขาไม่ได้เป็นคนเก็บตัว
ขี้เก๊ก หรือหวงกระเป๋าสตางค์จนเกินเหตุ
ก็คงไม่มีคนปกติที่ไหนซุกมือไว้ในกระเป๋าตลอดเวลาหรอก…จริงไหม ?
4. เล่าทุกรายละเอียด
ส่วนมากหากผู้ชายโดนแฟนถามว่าไปทำอะไรที่ไหนมา พวกเขาก็จะตอบแค่สั้น ๆ
คร่าว ๆ พอให้เธอสบายใจแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ
เพราะพวกเขาไม่ค่อยจะเม้าท์แบบผู้หญิง ๆ สักเท่าไร
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเล่าขยายความจากเรื่องสั้นให้กลายเป็นยาวแบบเจาะลึก
ทุกรายละเอียด ซึ่งผิดวิสัยการพูดของเขา ก็ควรระวังเอาไว้เลยนะสาว ๆ
เพราะมันชักจะไม่ชอบมาพากลแล้วนะ
5. ยักไหล่
ช่วงที่เขากำลังเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้คุณฟัง
แล้วเขาเกิดยักไหล่ในจังหวะที่ไม่มีเหตุการณ์พิเศษอะไร
หรือไม่มีอะไรมากระแทกแขนของเขา
ตอนนี้เขาเริ่มแสดงอาการคนโกหกออกมาให้เห็นแล้ว
คราวหน้าคุณลองนับจำนวนครั้งที่เขายักไหล่ดู
ถ้าผลลัพธ์เป็นเลขคี่ก็แสดงว่าเขาโกหกคุณชัวร์
6. เล่าย้อนเหตุการณ์ไม่ได้
ปกติเวลาที่เราเล่าอะไรสักอย่าง
เราก็มักจะเล่าจากเหตุการณ์แรกไปจนเหตุการณ์สุดท้ายเสมอ
อาจจะสลับเหตุการณ์บ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
หรือจะให้เล่าจากเหตุการณ์สุดท้ายแล้วย้อนไปเหตุการณ์แรกก็ไม่มีปัญหาถ้าพูด
ความจริง แต่สำหรับคนโกหกแล้ว
จะให้เล่าแบบย้อนหลังคงทำได้ยากถ้าไม่ได้เตรียมการมาก่อน
ต่อไปหากคุณรู้สึกว่าเขากำลังโกหกก็ลองใช้วิธีนี้ดูสิ หรือหลอกถามเนียน ๆ
แบบสลับเหตุการณ์ดูบ้าง รับรองคนโกหกตอบไม่ได้แน่นอน
7. หยุดคิดนาน
สำหรับคนโกหกที่ไม่ได้เตรียมการมาล่วงหน้า มักจะยืนคิดก่อนพูดเสมอ
เพราะกลัวว่าหากพูดออกไปแล้วจะจำสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ไม่ได้
และถ้าหากคุณถามอะไรไปแล้วเขาตอบอึก ๆ อัก ๆ
จะพูดอะไรสักคำก็ลุ้นแทบตัวโก่ง
อาการแบบนี้เป็นหลักฐานชั้นดีสำหรับจับผิดคนโกหกเลย
ไม่
ว่าแฟนของคุณจะโกหกคุณหรือไม่ก็ตาม สาว ๆ ก็รู้เทคนิคการจับผิดโกหกหนุ่ม ๆ
เอาไว้บ้างก็ดีนะ
เพราะวันใดวันหนึ่งที่เขาคิดไม่ซื่อกับคุณจะได้รู้เท่าทันเขาบ้าง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรใช้วิจารณญาณ และเอาเหตุผลมาประกอบด้วยนะคะ
ถ้าเอาแต่คิดว่าเขาโกหกอย่างเดียวโดยไม่ฟังเหตุผลเขาเลย
อาจจะทำให้คุณทั้งคู่ผิดใจกันซะเปล่า ๆ นะ