งานบ้านไม่ใช่หน้าที่ของผู้หญิงฝ่ายเดียว ต้องช่วยกัน เรื่องเล็กๆที่ไม่ควรมองข้าม


ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรากับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่อยู่ด้วยกัน  หลังเรียนจบเราก็มาหางานทำในกรุงเทพและได้งานที่นี่ เราก็เลยเช่าห้องอยู่คนเดียว แฟนทำงานอยู่ตจว. ต่อมาแฟนย้ายเข้ามาทำงานในกทม และได้มาพักกับเรา ซึ่งเราก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เรารู้สึกว่าชีวิตเราเปลี่ยนๆไปทันที หลังเลิกงานเรากลับมาทำกับข้าวและก็ต้องรอทานข้าวพร้อมเขา บางทีเขากลับดึกเราก็รอ…รอ.. เขากลับมาถึงก็อาบน้ำแล้วมากินข้าว กินข้าวเสร็จก็นอนเล่นโทรศัพท์ บางวันก็เล่นเกม ซึ่งเราจะต้องเก็บจานล้าง ล้างจานเสร็จไหนจะต้องซักผ้าอีก(ซักมือ) ทำไมเขาไม่คิดจะช่วยเราบ้าง แค่ช่วยตากผ้าก็ยังดี หรือเขาคิดว่าเป็นงานของผู้หญิง
จุดแตกหักมาถึงวันนี้ เราพูดกับเขาตรงๆว่าเราเหนื่อย กลับมาจากที่ทำงานแล้วต้องมาทำงานบ้านคนเดียวอีก ที่เราทำให้เพราะอยากทำ มันไม่ใช่หน้าที่นะอย่าเข้าใจผิด ต้องช่วยกัน ทีนี้นางก็ขึ้นเลยจ้าาา นางบอกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องทำกับข้าวแล้วนะเด้วนางหากินเอง ผ้าก็ไม่ต้องซักให้นางแล้ว แล้วเราก็บอกว่าที่พูดเนี่ยเพราะต้องการให้ปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่ให้มันเป็นแบบนี้ นางก็พูดว่า เออ!!ก็นางเป็นคนขี้เกียจนิ จบมะ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงกับนางดี
เราไม่ชอบเลยที่เป็นแบบนี้ ย้อนไปตอนที่เราอยู่คนเดียวเรายังสบายใจกว่า เราเลยบอกว่าถ้าหางานใหม่ได้ก็ไปเลยนะไม่ต้องห่วงเค้า (นางกำลังจะเปลี่ยนงาน) หาที่ห้องใหม่ๆได้ยิ่งดี เค้าอยากอยู่คนเดียว เค้าไม่ได้ไล่นะ แต่เค้าอยากอยู่คนเดียวจริงๆ เราพูดประโยคนี้ไปไม่รู้ใจนางจะคิดยังไง
ปล.ที่เราบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ เพราะว่าเขาไม่ได้มารับผิดชอบอะไรกับชีวิตเรา เรื่องกินอยู่ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราก็ดูแลตัวเองหมด (พึ่งพาตัวเองได้ strong!!!) แล้วทำไมเราต้องไปดูแลปรนนิบัติเขา ขนาดพ่อก็ยังไม่ทำให้ขนาดนี้เลย (ใครจะว่าเราเห็นแก่ตัวก็ได้นะ) แต่ว่าถ้าจะมีใครสักคนมาอยู่ด้วย มันก็ต้องทำให้รู้สึกว่าดีกว่าอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ แต่นี่เปล่าเลย….  เอาอิสระของชั้นคืนมาาา