เมนู 6 เส้น กินแล้ว "อ้วน" หรือไม่?!!

เชื่อว่าหลายๆคนก็ชอบกินก๋วยเตี๋ยว เพราะเป็นเมนูที่หากินได้ง่าย สะดวก เหมาะสำหรับมนูษย์เงินเดือนแบบเราๆ ที่สำคัญราคาไม่แพง แต่...รู้หรือไม่ว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวแต่ละชนิด ถ้ากินเยอะก็ทำให้เราอ้วนได้นะ!!

สาวกลัวอ้วนทั้งหลาย ที่คิดจะเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานแคลอรี่ต่ำ ก่อนอื่นก็ต้องตรวจเช็คปริมาณแคลอรี่ที่มีอยู่ในอาหารแต่ละชนิดให้ดีก่อน ทางที่ดีควรจะมีลิสต์ของเมนูอาหาร ที่ปกติเราชอบกินเอาไว้ในใจ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการหา แล้วก็ยังสามารถกะเกณฑ์ปริมาณแคลอรี่ ในอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คนที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก จะนิยมลดการกินแป้ง เช่นข้าว ขนมปัง ที่เป็นอาหารหลักที่คนไทยชื่นชอบ และต้องกินอยู่เป็นประจำทุกมื้อ แต่คนที่ตัดสินใจงดแป้งหลายคน ก็เปลี่ยนจากการทานข้าว เป็นทานอาหารเมนูเส้นแทน เพราะคิดว่าคงให้พลังงานที่ต่ำกว่า แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงรึเปล่า อันนี้เราต้องมาดูกันหน่อย

เปรียบเทียบอาหารทุกอย่าง ในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน

เส้นก๋วยเตี๋ยว

ให้พลังงาน 150-220 แคลอรี่

ก๋วยเตี๋ยวเส้นขาวๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เส้นใหญ่ เส้นเล็ก หรือเส้นหมี่ ก็ล้วนทำมาจากแป้งข้าวเจ้าเหมือนกันหมด แต่กลับให้พลังงานที่ต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชื้นของเส้นแต่ละชนิด โดยเส้นใหญ่จะให้แคลอรี่สูงที่สุด เพราะมันจะเคลือบไปด้วยน้ำมัน ทำให้ในปริมาณเส้นใหญ่ 100 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 220 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว ในขณะที่เส้นเล็กให้พลังงานประมาณ 180 กิโลแคลอรี่ และเส้นหมี่ให้พลังงานน้อยที่สุดในหมวดประมาณ 150 กิโลแคลอรี่เท่านั้นสาวๆ ที่ลดน้ำหนักก็ควรเลือกกินเส้นหมี่จะเวิร์คที่สุด

วุ้นเส้น

ให้พลังงาน 330 แคลอรี่

หลายคนเห็นแล้วแทบจะเป็นลม เพราะคิดมาตลอดว่ากินวุ้นเส้นจะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ทำไมถึงได้มีแคลอรี่สูงปรี๊ดขนาดนี้กัน คงต้องบอกก่อนว่า วุ้นเส้นเป็นอาหารที่มีน้ำหนักเบามาก 1 ซองมีประมาณ 50 กรัมเท่านั้น ปกติคนเราจะ กินกันไม่ถึง 100 กรัมแต่ก็อย่าไปคิดว่าวุ้นเส้นเป็นโปรตีน เพราะเห็นว่าทำมาจากถั่วเขียว ต้องรู้ก่อนว่า ในกระบวนการผลิตวุ้นเส้น ถั่วจะถูกโม่ และแยกโปรตีนออกไปจนหมด เหลือแต่แป้ง แถมเดี๋ยวนี้ยังมีการผสมแป้งมันลงไปเพื่อเป็นการลดต้นทุนอีกต่างหาก และวุ้นเส้นประเภทนี้จะไม่เหนียวเท่าวุ้นเส้นจากถั่วเขียว 100%

เส้นขนมจีน

ให้พลังงาน 80 แคลอรี่

จริงอยู่ที่เส้นขนมจีนจะทำจากแป้งสาลีเหมือนกับเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่แป้งสำหรับเส้นขนมจีนจะใช้วิธีการหมักแช่น้ำไว้ก่อน จึงนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ และมักเป็นเส้นสดใหม่ที่ทำวันต่อวัน ตัวเส้นขนมจีนจึงมีองค์ประกอบของน้ำมาก และให้พลังงานต่ำกว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวปกติ แต่ข้อเสียของมันก็คือ กินแล้วไม่ค่อยอยู่ท้อง นอกจากนี้ต้องระมัดระวังการรับประทานเส้นขนมจีนเป็นพิเศษ ควรเลือกแบบที่เป็นสีธรรมชาติ ไม่มีการแต่งสีเพิ่มเติม และหากซื้อมาแล้วยังไม่กิน หรือกินไม่หมดก็ควรแช่ตู้เย็นเก็บไว้ แม้จะเป็นแป้งหมักแต่ก็ไม่ควรทิ้งไว้ข้ามวัน

เส้นบะหมี่

ให้พลังงาน 300 แคลอรี่

บะหมี่ที่มีเส้นสีเหลือง ทำมาจากแป้งสาลี ซึ่งเป็นแป้งที่มีโปรตีนสูงพอสมควร และมีประโยชน์จากแคโรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มวิตามินเออีกด้วย ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นซองๆ นั้นถึงจะเห็นสีเหลืองๆ เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าจะมีคุณประโยชน์มากมาย เพราะมันต้องผ่านการทอดและปรุงรส จนมีไขมันและโซเดียมสูง แค่ปริมาณ 1 ซอง ซึ่งมีปริมาณ 60 กรัม นั้น ก็ให้พลังงานถึง 280 กิโลแคลอรี่ และพลังงานเกือบครึ่งหนึ่งนั้น ก็มาจากไขมันล้วนๆ

เส้นบุก

ให้พลังงาน 10 แคลอรี่

แค่เห็นปริมาณแคลอรี่ที่ได้จากการกินเส้นบุก ก็ทำให้หลายคนตาลุกวาว เส้นบุกที่แปรรูปมาจากหัวบุกนี้ มีเส้นใยสูง และยังให้พลังงานต่ำมากๆ แถมสารแป้ง ที่มีอยู่ในหัวบุกซึ่งเรียกกันว่า แมนแนน เมื่อแตกตัวจะได้เป็นน้ำตาลกลูโคสและแมนโนส ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นมีการยืนยันว่า ในกระบวนการย่อย แมนโนสนั้นจะถูกดูดซึม ช้ากว่ากลูโคส ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นช้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ที่เป็นเบาหวาน และคนที่อยากผอม อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ลดความอ้วน

เส้นแก้ว

ให้พลังงาน 20 แคลอรี่

เส้นแก้วใสๆ มีลักษณะคล้ายวุ้นเส้น แต่ตัวเส้นอวบและกรุบกว่านี้ ทำจากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตน้อยมาก มีแค่ประมาณ 4 กรัม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นใยอาหาร เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือต้องการลดความอ้วน เส้นแก้วจะมีความแตกต่างจากเส้นบุกตรงที่ เส้นชนิดนี้จะมีโซเดียมและแคลเซียมอยู่เล็กน้อยคนที่อยากซื้อเส้นแก้วมารับประทาน สามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปสามารถกินสดๆ ได้เลย แต่ถ้าไม่ชอบก็สามารถนำไปผ่านความร้อน หรือปรุงรสหน่อยเพื่อให้เส้นนิ่มลงได้

รู้แบบนี้แล้ว "เลือก" รับประทานไห้เหมาะกับตัวเองกันเล๊ยยยย