3 ความเชื่อที่ควรเลิกเชื่อได้แล้วถ้าคุณยังอยากเจอรักแท้

ทุกครั้งที่ผมพบใครสักคนก็มักจะครุ่นคิดว่า
?ใช่เธอคนนี้หรือเปล่า?? และด้วยความที่มีนิสัยขี้อาย
ผมจึงเลือกที่จะไม่เข้าไปหาอีกฝ่ายก่อน จากนั้นผมก็จะรู้สึกผิดและคิดว่า
?ให้ตายเถอะเธอหลุดมือไปแล้ว แต่ไม่เป็นไรครั้งหน้าก็ได้?
ผมมักจะเสียใจและเสียดายว่าผมน่าจะเข้าไปคุยกับเธอ! และพอผมบ่นกับเพื่อน
พวกเขาก็จะปลอบใจว่า ?ไม่เป็นไรหรอกน่า?
เอาล่ะงั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าความเชื่อใดที่ส่งผลเสียต่อการตามหารักแท้แทน
ที่จะมีประโยชน์กับเรา..

1. ความเชื่อที่ว่าในโลกนี้มีรักแท้แค่ครั้งเดียวสำหรับคุณ

ผมกับภรรยาเคยคุยกันเรื่องนี้เมื่อวันก่อน
เรารักกันและวางแผนที่อยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์
แต่พอมาถึงความคิดที่ว่าคนเรามีรักแท้ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง
ภรรยาของผมก็กอดอกและถามผมว่า ?นี่ฉันยังไม่ใช่คนๆนั้นสำหรับคุณอีกเหรอ!??
ความจริงคือในโลกนี้มีประชากรมากกว่า 7
พันล้านคนและถ้ามีใครสักคนถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าว่าเป็น ?คนที่ใช่?
สำหรับผมแล้ว ผมก็จะสงสัยว่าภรรยาของผมใช่คนๆนั้นหรือเปล่า?
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับผม เราโตมาด้วยกัน
หัวเราะมาด้วยกัน ประคับประคองความสัมพันธ์มาด้วยกัน
และแต่งงานกันเพราะตอนนั้นเรารู้สึกและตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าเราเป็นคนที่ใช่
ของกันและกัน แต่เมื่อใดที่คุณเลิกเชื่อว่ารักแท้มีแค่ครั้งเดียว
การเดทก็จะตั้งอยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริงมากขึ้น
ที่สำคัญชีวิตก็จะสมดุลและสนุกมากขึ้นด้วย

2. ความเชื่อที่ว่าเมื่อใดที่คุณเลิกตามหารักแท้ รักแท้ก็จะตามเจอคุณเอง

เมื่อผมเชื่อหรือแม้แต่คิดว่าชีวิตรักของคน
เราถูกกำหนดด้วยโชคชะตา
ผมก็รู้สึกวิตกกังวลว่าผมอาจจะต้องตามหารักแท้ไปตลอดทั้งชีวิตแถมที่สำคัญ
ความรักก็ไม่ได้ตามหาคุณด้วย
คนที่ให้คำแนะนำกับคุณแบบนี้เป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักวิธีตามหารักแท้
ดังนั้นพวกเขาจึงใช้คำพูดที่ฟังแล้วดูดีและคิดว่าคุณอยากได้ยิน
อย่างไรก็ตามความรักต้องอาศัยการกระทำ ความทุ่มเทในการสร้างความสัมพันธ์
และรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้
จงเชื่อในตัวเองและพลังในการดึงดูดผู้อื่นและสานสัมพันธ์กับคนที่คุณรู้สึก
สนใจ

3. ความเชื่อที่ว่าคุณต้องคาดหวังไว้สูงมากเพื่อตามหารักแท้ที่ดีพอ

ผมไม่คิดว่าการเดทกับคนที่ปฏิบัติต่อคุณอย่างมีเกียรติ
ให้ความเคารพและมอบความรักให้อย่างเต็มเปี่ยมคือความคาดหวังสูง
นี่เป็นความคาดหวังขั้นพื้นฐานเท่านั้น
ความคาดหวังสูงน่าจะเกี่ยวกับคุณสมบัติเฉพาะและยากเกินกว่าที่จะมีใครเข้า
ข่ายดังกล่าว เช่น แฟนในอุดมคติของฉันต้องทำงานแบบนี้ สูงอย่างนี้
หรือขับรถยี่ห้อนี้ อย่างนี้แหละถึงจะเรียกว่าความคาดหวังสูง
ขณะที่การลดความคาดหวังจะหมายถึงเราเปิดใจมากขึ้นแต่ไม่ใช่การลดความต้องการ
ลง เช่น
แทนที่จะคาดหวังว่าเขาคนนั้นต้องวิ่งสัปดาห์ละกี่ชั่วโมงเป็นฉันหวังว่าจะ
ได้เจอคนที่รู้จักดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ เป็นต้น
และคุณอาจจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่จากคนที่ไม่ตรงกับความคาดหวังของ
คุณก่อนหน้านี้

สุดท้ายนี้ความรักระหว่างคนสองคนไม่ใช่
สิ่งที่สามารถแบ่งประเภทแบบนั้นได้
ความจริงคือคุณสามารถตามหารักแท้และเปิดใจให้กับรักที่ผ่านเข้ามา
ที่สำคัญคุณก็มีรักแท้ได้เมื่อคุณแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณเปิดใจให้ความรัก
เป็นฝ่ายก้าวเข้ามาหาคุณ

Blogger : Shawn Mckibben

Source : mindbodygreen.com